“วีออส” เปลี่ยนไป..!?

“เก๋งคู่บ้านคู่เมือง” ที่ถึงวันนี้กวาดยอดขายสะสมทะลุ 2.6 แสนคัน ด้วยระยะเวลา 10 ปีหลังการเปิดตัวสู่ตลาดไทยในชื่อ “โซลูน่า” เมื่อปี 2540 และโซลูน่า วีออส ในปี 2545...ล่าสุดกับเจเนอเรชัน 3 ใช้ชื่อ “วีออส” โล้นๆ ในการทำตลาด ทั้งยังมาพร้อมวลีเด็ดชวนให้น่าเป็นเจ้าของ “My Design, My pride” ยนตรกรรมแห่งความภาคภูมิใจ

ทั้งคนออกแบบ คนผลิต-ภูมิใจ, คนขาย ขายได้-ภูมิใจ, คนซื้อ-ภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมจากน้ำพักน้ำแรง และแน่นอนว่าบนความภูมิใจก็ต้องคาดหวังพาหนะที่มีความคุ้มค่าต่อราคา พร้อมสมรรถนะสมเนื้อสมตัว ยิ่งโซลูน่า วีออส เจเนอเรชั่นที่สองถือว่าถือว่าตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีในหลายด้าน ทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ รวมถึงราคาค่าตัว และค่าบำรุงรักษาไม่สูงมาก ส่งผลให้กวาดยอดขายแบบถล่มทลาย ดังนั้นจึงถือเป็นความท้าทายของ “วีออส ใหม่” ที่จะเข้ามาสานต่อความสำเร็จ และมาตรฐานที่รุ่นพี่ปูเอาไว้

วีออส ใหม่ แบ่งเป็น 6 รุ่นย่อย(ไม่รวม เอส และ จี ลิมิเต็ด ที่จะเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์2007) ราคาเริ่มต้น 5.09 – 6.99 แสนบาท โดยถูกปรับขึ้นจากรุ่นเดิมประมาณ 5% ในแต่ละเกรด ซึ่งหลังการเปิดตัวเพียงหนึ่งอาทิตย์ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีโอกาสได้ลองขับในรุ่น จี เกียร์อัตโนมัติ

ถึงแม้จะเป็นรูปลักษณ์ใหม่ แต่ก็คุ้นชินมาสักพักแล้วกับ โตโยต้า เบลต้า ในญี่ปุ่น หรือยาริส ซีดานในอเมริกา โดดเด่นด้วยหน้าแบบ ยู-เชฟ (U-Shape) เส้นสายที่ลากจากฝากระโปรงลงมาถึงกระจังหน้า ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของโตโยต้า พ.ศ.นี้ ยิ่งเวลาขับตามกันไปแล้วเหลือบมองกระจกหลังพานนึกว่า “คัมรี่” วิ่งตามมา ขณะเดียวกันยังเพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟตัดหมอก และไฟเลี้ยวที่กระจกข้าง ส่วนด้านหลังอาจดูจืดๆ ไปหน่อย ถึงแม้ไฟท้ายจะเป็นแบบใหม่โค้งนูน 3 มิติ แต่รู้สึกว่ายังไม่โดดเด่นเท่ารุ่นเก่า

ภายในใช้โทนสีเบจตัดดำ ดูลงตัวทั้งจากคอนโซลหน้า และเบาะหนัง ด้านพวงมาลัยสามก้าน มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงติดมาให้ด้วย ขณะที่หน้าปัดแสดงผลการขับอยู่ตรงกลางเหมือนยาริส พร้อมด้วยมาตรวัดแบบออปติตรอน และจอเล็กๆ แสดงข้อมูลการขับ เช่น ระยะทางรวม ระยะที่ขับได้จากน้ำมันที่เหลื่ออยู่ รวมถึงอัตราการซดน้ำมัน ส่วนเครื่องเสียงเล่น วิทยุ ซีดี เอ็มพี3 และไฟล์ WMA 1 แผ่น พร้อมโปรแกรม ASL (Speed Auto Sound Levelizer) ปรับระดับความดังเสียงตามความเร็วของรถ และตั้งได้ 3 ระดับ คือ เบา กลาง สูง

สำหรับการลองขับ วันนั้นเราใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ-พัทยา โดยช่วงแรกผมขอตัวไปนั่งเบาะหลังก่อน ซึ่งก็ตามคาดครับ! คนสูง 175 ซม.ขึ้นไปหัวเกือบชนเพดานทำให้รู้สึกคับแคบไปถนัดใจ แต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัดมาก เพราะวีออส ใหม่ มาชดเชยด้วยระยะเลกรูมที่กว้างพอสมควร รวมถึงพื้นห้องโดยสารด้านหลังเรียบไม่มีอุโมงค์มาแกะกะเหมือนรุ่นก่อน

หลังจากแวะโรงงานผลิตรถยนต์ของโตโยต้าที่บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ผมจึงมีโอกาสได้ควบ วีออส ใหม่ โดยออกไปทางอำเภอพนมสารคาม แล้วตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 331 ซึ่งช่วงแรกการจราจรพลุกพล่านมาก จากบรรดาสิงห์รถบรรทุก แต่เจ้าวีออสใหม่ก็มุดซ้ายป่ายขวาคล่องแคล่วดีทีเดียว โดยพวงมาลัยไฟฟ้าอาจเบาๆมือไปบ้าง แต่ก็ยังเฉียบคม ทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา

ส่วนเครื่องยนต์ 1NZ-FE เป็นตัวเก่า ที่วางอยู่ในวีออสเดิม และยาริส ขนาด 1500 ซีซี DOHC 16 วาล์ว VVT-i กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ ต่อ/นาที พร้อมคันเร่งไฟฟ้า ยังตอบสนองแรงกดของเท้าขวาได้ดี ทั้งการออกตัวหรือเร่งแซง เชื่อขนมกินได้ทุกย่านความเร็ว อย่างไรก็ตาม ถ้าคิกดาวน์เอามันเครื่องยนต์ดูจะกระกระตือรือร้นเป็นพิเศษ เพราะเสียงจะดังเข้ามาในห้องโดยสารมากพอสมควร

ขณะเดียวกัน ชุดเกียร์ออโต้เปลี่ยนมาเป็นแบบขั้นบันได (ยกมาจากยาริสทั้งบล็อก) ใช้งานได้คล่องมือ หรืออยากเรียกรอบก็ไม่ต้องพึ่งปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์ เพียงผลักจากตำแหน่ง D มา 3 เข้าหาตัว ก็ให้อารมณ์สปอร์ตไปอีกแบบ ส่วนการเปลี่ยนเกียร์ก็ไหลลื่นนุ่มนวล ทั้งยังปรับอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ จาก 3.8 ในรุ่นเก่า เป็น 4.2 ซึ่งจะช่วยให้การออกตัวจี๊ดจ๊าดเร้าใจยิ่งขึ้น

สำหรับหลายคนที่เคยบ่นถึงช่วงล่างของวีออสเดิมว่าแข็งไป คงต้องเปลี่ยนความรู้สึกใหม่กับตัวนี้ เพราะโตโยต้า ตั้งใจเซตให้นุ่มกว่าเดิมเล็กน้อย พร้อมขยายระยะฐานล้อ รวมถึงช่วงห่างของทั้งล้อหน้า และล้อหลังให้กว้างขึ้น เพื่อประสิทธิภาพการทรงตัว
โดยช่วงล่างหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังทอร์ชันบีม รับกับล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว ยางขนาด 185/60 R15 ที่ขับเรื่อยๆ ในเมืองก็นิ่มนั่งสบายดี แต่ถ้าขับทางไกลใช้ความเร็วสูง จะรู้สึกว่าไม่หนักแน่นเท่ารุ่นก่อน ยิ่งความเร็วเกิน 120 กม./ชม.ขึ้นไป มือคงต้องกำพวงมาลัยแน่นหน่อย (ส่วนหนึ่งเพราะพวงมาลัยเบามาก)

ด้านระบบความปลอดภัยอย่างเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเสริมแรงเบรก BA รวมถึงเบาะนั่งระบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) ลดอาการบาดเจ็บบริเวณกระดูกต้นคอ กรณีถูกชนท้าย และเข็มขัดนิรภัยดึงกลับอัตโนมัติ โตโยต้าก็ใส่มาให้เป็นมาตรฐานทุกรุ่น ส่วนรุ่น จี เกียร์ออโต้ ราคา 6.99 แสนบาท จะเพิ่มถุงลมนิรภัยคู่หน้ามาให้ด้วย

รวบรัดตัดความ...วีออส ใหม่ กับ ยาริส ใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน รวมถึงอุปกรณ์หลายอย่างร่วมกัน ซึ่งเป็นปรัชญาในการผลิตรถยนต์ยุคใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต ดังนั้น ความรู้สึกโดยรวมก็เหมือนการขับยาริส ทั้งเครื่องยนต์ตอบสนองฉับไว พวงมาลัยเฉียบคม แต่การเก็บเสียงในห้องโดยสารยังไม่เนียนเท่าที่ควร

รวมถึงประเด็นที่มองข้ามไม่ได้เห็นจะเป็นเรื่องการซดน้ำมัน ซึ่งอาจรับประทานมากกว่ารุ่นก่อน จากน้ำหนักรถที่มากขึ้น 10-20 กิโลกรัม รวมถึงการปรับอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ โดยการขับนอกเมืองวันนั้นใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. หน้าปัดดิจิตอลแสดงตัวเลขอยู่ที่ 14 กม./ลิตร

สำหรับการกลับมาของเจ้าตลาดเก๋งซับคอมแพกต์ครั้งนี้ ได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นหลายอย่างทั้งอุปกรณ์ และเทคโนโลยีทันสมัย ที่โตโยต้าขนมาเพื่อรองรับทุกไลฟ์ไตล์ ทั้งยังวางให้เป็นรถขับง่าย คล่องตัวในเมือง พร้อมราคาไม่โดดไปจากรุ่นเดิมมากนัก แต่การตั้งใจให้ช่วงล่างนุ่ม ไม่เฟิร์มเท่ารุ่นเก่า บวกกับพวงมาลัยไฟฟ้า อาจทำให้ความสนุกจากการขับน้อยลงไป...ถึงบรรทัดนี้คงต้องบอกว่า “วีออส เปลี่ยนไป” เพราะขับไม่มันเหมือนเดิมอีกแล้ว!